ปัจจุบัน “อาหารฮาลาล” ของไทยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากจำนวนประชากรมุสลิมมีการขยายตัวสูง ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มิใช่มุสลิมก็ให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารปลอดภัย และมีความเชื่อมั่นในอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลของไทยที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานคุณภาพตามหลักการศาสนาบัญญัติอิสลาม จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในการพัฒนาศักยภาพสินค้าฮาลาลสู่สากล โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นฐานการผลิตสินค้าฮาลาลที่สำคัญ
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากเทรนด์การเติบโตของอาหารฮาลาลทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จึงได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลให้ได้รับการพัฒนาด้านการส่งออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก และยังสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564 – 2570 ภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการอาหารฮาลาล 5 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อการค้าระหว่างประเทศ ผ่านการให้ความรู้และคำปรึกษาเชิงลึกแบบครบวงจร ตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการส่งออก การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ การปรับมาตรฐานและคุณภาพให้อยู่ในระดับสากล ความรู้ด้านการตลาด ไปจนถึงการนำสินค้าไปทดลองจำหน่ายหรือจัดแสดงในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition”
“ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลที่เราคัดเลือกให้มาจัดแสดงสินค้าในงานนี้นับเป็นผู้ประกอบที่มีศักยภาพ มีจำนวนรวม 28 บริษัท สินค้าจากผู้ประกอบการแต่ละรายล้วนน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของตลาด อาทิ ผลไม้แปรรูป อาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากเห็ด กะปิ น้ำจิ้มสุกี้ เครื่องแกงสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์รังนก ผลิตภัณฑ์จากตาลโตนด กาแฟสำเร็จรูป และเครื่องดื่ม
โดยจัดแสดงสินค้าที่คูหา JJ01-14 และ HH01-14 บริเวณ Hall 10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” ระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งงานนี้นับเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้มาเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อจากทั่วโลก ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาหารของโลก ตามนโยบายอาหารไทยอาหารโลกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” นายภูสิต กล่าว
สื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th
อุษณีย์ ถาวรกาญจน์ โทร.081 984 5500 Email: usanee@incom.co.th